อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปีกตัวจี๊ดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งข้อความตอบกลับไปถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส ปราการหลังทีม เซาธ์แฮมป์ตัน แล้วหลังถูกคู่กรณีเข้าปะทะจนบาดเจ็บข้อเท้าจากการฟาดแข้งฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสเก็บสามแต้มในเกมเปิดบ้านต้อนรับทีมบ๊วยเนื่องจาก กาเซมีโร่ มิดฟิลด์คนสำคัญได้ใบแดงตั้งแต่นาทีที่ 34 ขณะที่ นักบุญ เองก็ไม่อาจอาศัยความได้เปรียบในเรื่องจำนวนผู้เล่นกำชัยกลับรังตัวเอง

กระนั้นก็ดี นอกจากประเด็นใบแดงของสตาร์ทีมชาติ บราซิล ซึ่งจะโดนแบนสี่เกมแล้ว ปีศาจแดง ต้องลุ้นอาการบาดเจ็บของ การ์นาโช่ ด้วยหลังเจ้าตัวต้องสวมเครื่องป้องกัน และใช้ไม้ค้ำจากการโดน วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส เข้าปะทะซึ่งแม้ เอริค เทน ฮาก จะระบุว่าดาวเตะละตินไม่ได้เจ็บหนัก แต่ล่าสุดสื่อเชื่อว่าปีกผมทองมีสิทธิ์หลุดโผทีมชาติ

ต่อการบาดเจ็บของ การ์นาโช่ ส่งผลให้ดาวเตะ เดอะ เซนต์ส ถูกโจมตีทางสื่อโซเชี่ยลตามระเบียบจากการโดนเหยียดผิว ร้อนจน เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องแถลงการณ์ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเนื่องจากเมื่อสองปีก่อนในเกมกับ ผีแดง นักเตะของพวกเขาก็เคยโดนเหยียดผิวแบบนี้มาแล้วซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกระทำดังกล่าวถูกปล่อยปะมาโดยตลอดจนเหมือนเป็นการเปิดกว้างให้แฟนบอลเหยียดผิวนักเตะได้

กระทั่งล่าสุด วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส ได้โพสต์เปิดใจถึงการโดนเหยียดผิว รวมทั้งส่งข้อความไปหา การ์นาโช่ ด้วย



"ภูมิใจที่ได้หนึ่งแต้มในเกมยากที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เรารู้สึกว่าเราน่าจะได้อะไรมากกว่านี้ มันเป็นความพยายามที่ยิ่งใหญ่จากทุกคน" วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส โพสต์ลงไอจีเมื่อ 14 มี.ค.

"ขอบคุณกองเชียร์ที่เดินทางไปกับเรา มันช่วยเราได้มากเลย"

"ในทางส่วนตัว ผมโดนเหยียดผิวชนิดที่ไม่มีใครหรือนักเตะคนไหนมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน เราต้องการสิ่งที่ดีขึ้น และมันมากเกินกว่าที่จะเป็นแค่เกมฟุตบอลไปแล้ว เราต้องการเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก"

"ขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความมาสนับสนัน ผมปลื้มทุกคนมาก"

"สุดท้ายนี้ ถึง การ์นาโช่ ไม่ใช่เจตนาของผมที่ต้องการทำให้เพื่อนร่วมอาชีพบาดเจ็บ ผมหวังว่าคุณจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และหวังได้เห็นคุณกลับมาลงสนามอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

ด้านสตาร์วัย 18 ปีของ ปีศาจแดง โพสต์ข้อความตามมาว่า "ยิ่งกว่าฟุตบอล ขอบคุณมากที่ส่งข้อความมาหานะพี่ชาย มันเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอล"

เอ็ดดี้ ฮาว นายใหญ่ทีม นิวคาวเซิ่ล ยูไนเต็ด แสดงความชื่นชมสปิริตของลูกทีมที่เปิดรังเผด็จศึก วูล์ฟส์ ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-1 จากการทำศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มี.ค.

นิวคาสเซิ่ล เก็บสามแต้มขยับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นสู่อันดับห้าได้ แต่ก็ต้องลุ้นหนักพอสมควรเนื่องจากทีม หมาป่า ได้ประตูตีเสมอจาก ฮวาง ฮี ชาน ในนาทีที่ 70 หลังจาก อเล็กซานเดอร์ อิซัค ซัดให้เจ้าบ้านนำก่อนในครึ่งแรก แต่สุดท้าย มิเกล อัลมิรอน ตัวสำรองกระทุ้งประตูชัยให้ทีมอีสานได้เฮในนาทีที่ 79

"ฟอร์มในครึ่งแรกของเราเป็นไปด้วยดี อเล็กซานเดอร์ อิซัค ยิงประตูสำคัญให้กับเรา เรานำไปก่อน 1-0 และเราน่าจะได้ประตูเพิ่มก่อนจบครึ่งแรก" ฮาว เอ่ย

"วูล์ฟส์ กลับมาสู่เกมได้ แต่เราแสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ และเราได้ประตูชัยซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดีสำหรับเรา"

ต่อข้อถามที่ วูล์ฟส์ ร้องขอลูกโทษ ฮาว กล่าวว่า "โดยส่วนตัวแล้วผมไม่คิดว่ามันเป็นลูกโทษ คุณอาจบอกว่าผมลำเอียงก็ได้"

"ผมคิดว่า ราอูล ฮิมิเนซ ล้มลงก่อนโดนปะทะ"

ไบรท์ตัน โฮล์ฟ แอนด์ อัลเบี้ยน ตบรางวัลของขวัญสุดล้ำค่าให้แก่ คาโอรุ มิโตมะ ด้วยการแจกรถยนต์ยี่ห้อ พอร์ช หลังแข้งทีมชาติญี่ปุ่นสร้างผลงานชั้นยอดจนคว้าผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของสโมสร

ไบรท์ตัน จับมือกับ พอร์ช รถยนต์ยี่ห้อดัง ตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16 โดยจะมอบรถยนต์แบรนด์นี้เป็นของรางวัลให้แก่ผู้เล่นที่ทำผลงานยอดเยี่ยมประจำเดือนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

ซึ่ง มิโตมะ สมาชิกนกนางนวลชาวอาทิตย์อุทัย ฉายความเก่งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ด้วยผลงาน 5 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ บนเวที พรีเมียร์ลีก รวมถึงนัดที่น่าจดจำยิงประตูชัยท้ายเกมในศึก เอฟเอ คัพ ที่ผ่านด่าน ลิเวอร์พูล ไปได้เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม

นอกจากจะคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของ "เดอะ ซีกัลส์" แล้ว แข้งวัย 25 ปียังได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ในนัดที่เจ้าตัวโขกใส่ บอร์นมัธ ซึ่งเป็นประตูชัยที่เกิดขึ้นในนาที 87

ขณะเดียวกัน จากเกมล่าสุดที่ ไบรท์ตัน บุกแชร์แต้มกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด มิโตมะ ก็มีส่วนร่วมกับประตูด้วยการโหม่งแอสซิสต์ให้ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ยิงออกนำ 1-0 ก่อนที่จะจบลงด้วยสกอร์ 2-2

ซาร่า ดูเก้ โค้ชสาวด้านภาษาในวงการฟุตบอล โดนแบนจากการทำงานร่วมกับบรรดาสตาร์ลูกหนังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะเหล่าภรรยาของพวกเขาอิจฉาริษยาภาพลักษณ์ที่สุดเซ็กซี่ของเธอ และกลัวว่าสามีจะอดใจไม่ไหว

สาวสวยสุดเอ็กซ์ ซึ่งมีผู้กดติดตามแพลตฟอร์มอินสตาแกรม มากกว่า 156,000 ฟอลโลเวอร์ส สามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วถึง 6 ภาษา  รวมทั้งภาษาอังกฤษ, เยอรมนี, สแปนิช, ฝรั่งเศส และ โปรตุกีส ซึ่งเป็นภาษาบ้านเกิดของเธอ

ซาร่า มีโอกาสได้ช่วยเหลือนักฟุตบอลต่างประเทศเพื่อปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในดินแดนเมืองผู้ดี รวมทั้ง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กองหน้าตัวเก่ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์ตูร์ เมโล่ มิดฟิลด์ตัวยืมของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งนักเตะทั้งสองคนมีภาพถ่ายคู่กับเธอที่โพสต์อยู่ในสื่อโซเชียลด้วย

นอกจากทั้งสองคนนี้แล้วยังมีนักเตะอีกหลายรายสนใจอยากใช้บริการ ซาร่า แต่จากรายงานของ "เดอะ ซัน" สื่อดังในอังกฤษ รายงานว่าบรรดา "แว็กซ์" ไม่ต้องการให้สามีของพวกเธอทำงานร่วมกับโค้ชด้านภาษาสุดเซ็กซี่รายนี้ เพราะหวั่นใจว่าบรรดาพ่อยอดขมองอิ่มจะตบะแตกที่ได้เห็นทรวดทรวงองค์เอวของเธอ

งานนี้บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเมื่อเข้าไปดูในเพจอินสตาแกรมของ โค้ชสาววัย 27 ปี จะเห็นภาพเซลฟี่ส่วนตัวของเธอสวมบิกินี่เยอะแยะมากมาย แถมแต่ละภาพก็เป็นการโพสท่าทั้งแบบเย้ายวนและเร่าร้อนเกินจะบรรยาย

ก่อนหน้านี้ ซาร่า เคยทำงานในฐานะนักกฎหมายด้านกีฬา แต่ตัดสินใจลาออกเพื่อเข้ามาทำหน้าที่เป็นโค้ชด้านภาษาให้กับสโมสรเอฟซี ปอร์โต้ เมื่อปี 2019 หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ 1 ปี เธอเลือกลาออกเพื่อมาเริ่มรับงานอิสระด้วยตัวเอง

ซาร่า เผยเกี่ยวกับสูตรพิเศษในการสอนภาษาให้เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคนิคการจำที่หลากหลาย "ในวงการฟุตบอล การสื่อสารต้องชัดเจนระหว่างนักเตะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการดำเนินการด้านกลยุทธ์, การตัดสินใจในเสี้ยววินาที และความสำเร็จตามเป้าหมายของทีม เช่นเดียวกับในชีวิตคนเรา การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์, แก้ปัญหา และนำไปสู่วัฒนธรรมใหม่ๆ"

คัลลั่ม วิลสัน กองหน้า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ออกโรงขอโทษขอโพยที่ปรามาส ลิเวอร์พูล ว่าหมดลุ้นท็อปโฟร์ ยอมรับตอนนี้ทัพ "หงส์แดง" กลับมาสยายปีกอีกครั้ง หลังไล่ต้อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7-0 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในศึก "แดงเดือด" เมื่อวันอาทิตย์ โดยจัดการยัดเยียดความปราชัยแบบย่อยยับอับปางให้กับคู่อริตลอดกาลชนิดที่ไม่มีใครอยากเชื่อ และนั่นทำให้พวกเขาพุ่งทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 5 มี 42 แต้ม ตามหลัง สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 แค่ 3 คะแนนแถมแข่งน้อยกว่า 1 เกม

วิลสัน ที่ก่อนหน้านี้แสดงความเห็นในเชิงดูหมิ่น ลิเวอร์พูล ว่าไม่มีทางที่จะฟื้นคืนชีพกลับมาลุ้นโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่พวกเขาโชว์ฟอร์มสุดบู่ในฤดูกาลนี้ และรั้งอยู่อันดับกลางตาราง แต่เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ "เดอะ เร้ดส์" กลับทำผลงานได้แบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือในเวลานี้

หัวหอกชาวอังกฤษ วัย 31 ปี กล่าวว่า "ผมขอโทษที่พูดว่า ลิเวอร์พูล ไม่มีทางกลับมาได้แน่นอน พวกเขากลับมาอย่างสุดปัง ! ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพูดไปในตอนนั้น กลายเป็นออกมาตรงกันข้ามหมดเลย"

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บได้ 7 คะแนนจาก 3 แมตช์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งตะบันไป 9 ลูกและไม่เสียประตูเลย ที่สำคัญพวกเขาจัดการเขี่ย นิวคาสเซิ่ล ต้นสังกัดของ วิลสัน หล่นไปอยู่อันดับ 6 ด้วย

บีบีซี สื่อยักษ์เมืองผู้ดีเผยเบื้องลึกว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ขอเปลี่ยนตัวออกในเกมแดงเดือดนัดบุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล แบบหมดสภาพ 7-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเหมือนที่ถูกคอมเมนเตเตอร์วิจารณ์

แฟร์นันด์ส สตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส ถูก แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลัง ผีแดง จวกยับว่าสมควรถูกริบปลอกแขนโทษฐานไม่มีความเป็นผู้นำเนื่องจากขอเปลี่ยนตัวหลังจากทีมตกเป็นรอง หงส์แดง ชนิดกู่ไม่กลับ

"บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยืนอยู่กลางสนามโดยยกมือบอกว่า "ทำไม่ไม่เปลี่ยนผมออก? บอกตามตรง ผมต้องบอกว่าพฤติกรรมในครึ่งหลังของเขาน่าละอายมาก" เนวิลล์ ระบุถึงจังหวะที่ แอนโธนี่ อีแลงก้า ถูกส่งลงไปแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด ในนาทีที่ 85

ต่อประเด็นดังกล่าว ล่าสุด บีบีซี รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ว่า แฟร์นันด์ส ไม่ได้ต้องการออกจากสนาม หากแต่เขาชี้นิ้วไปที่ซุ้มข้างสนามเพื่อสอบถามว่าจะให้เขาเล่นในตำแหน่งไหนต่างหากหลังจาก แรชฟอร์ด ถูกถอดออกโดยมี อีแลงก้า ลงเล่นแทน

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ตบะแตกตะโกนจวกแฟนบอลที่วิ่งเข้ามาในสนามเพื่อฉลองประตูในช่วงท้ายเกมจนทำให้ 2 แข้ง "หงส์แดง" ได้รับบาดเจ็บในแมตช์ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7-0 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

"เดอะ เร้ดส์" จัดการถล่มยับไม่นับญาติคู่อริตลอดกาลในเกม "แดงเดือด" โดยได้ 7 ประตูจาก โคดี้ กัคโป (2 ประตู), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (2 ประตู), ดาร์วิน นูนเญซ (2 ประตู) และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

ชัยชนะในเกมนี้ไม่ใช่เพียงแค่ได้ 3 คะแนนเท่านั้น แต่ยังทำให้ทีมมีลุ้นอันดับท็อปโฟร์ เพราะตอนนี้ "หงส์แดง" ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5 มี 42 แต้มตามหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 4 เพียง 3 คะแนน และแข่งน้อยกว่า 1 เกม

อย่างไรก็ตามมีแค่เรื่องเดียวที่ดูเหมือน คล็อปป์ จะไม่พอใจอย่างแรงนั่นก็คือจังหวะที่แฟนบอลรายหนึ่งวิ่งเข้ามาฉลองประตูตอกฝาโลงของ ฟีร์มีโน่ ช่วงท้ายเกม ร่วมกับแข้ง "หงส์แดง"

กระนั้นในจังหวะดังกล่าวแฟนบอลตัวแสบดันลื่นล้มไปชน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับ เคอร์ติส โจนส์ จนทำให้ทั้งสองคนมีอาการเจ็บ แต่เดชะบุญที่ทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด



ในขณะที่สจ๊วร์ตประจำสนามลากตัวแฟนบอลคนดังกล่าวผ่านหน้า คล็อปป์ งานนี้นายใหญ่ชาวเยอรมันเดินปรี่เข้าไปจัดการตะโกนตำหนิอย่างรุนแรงเกี่ยวกับการกระทำโดยไม่ยั้งคิดเพราะนั่นอาจทำให้นักเตะของทีมได้รับบาดเจ็บหนักได้ โดยงานนี้ผู้ตัดสินที่ 4 เข้ามาห้าม คล็อปป์ ไม่ให้เดินเข้าไปเอาเรื่องแฟนบอลคนนั้น

ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ ก็เคยแสดงพฤติกรรมดังกล่าวมาแล้วเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ในเกมที่ ลิเวอร์พูล พยายามจะยิงประตูช่วงท้ายเกมแมตช์พบ คริสตัล พาเลซ โดยตอนนั้น หลุยส์ ดิอาซ ซัดประตูตีเสมอให้ทีม 1-1 ทั้งๆ ที่พวกเขามีผู้เล่นเหลือแค่ 10 คน

ช่วงนาทีที่ 94 แฟนบอล "หงส์แดง" ดันวิ่งเข้ามาในสนามทำให้กรรมการต้องเป่าหยุดเกมทั้งๆ ที่ตอนนั้น "เดอะ เร้ดส์" กำลังเปิดเกมบุกเข้าใส่ โดยหลังจากที่กองเชียร์คนนั้นโดนการ์ดลากตัวออกไป คล็อปป์ ก็ตะโกนด่าอย่างรุนแรงขณะที่ผู้ตัดสินที่ 4 ต้องเข้ามาพยายามทำให้เขาใจเย็นลง

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันชัดเจนว่าดาวเตะ เดอะ ฟ็อกซ์ ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่แล้วนัดบุกไปแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เซนต์ แมรีส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 4 มี.ค. หากแต่ขาดจังหวะเหมาะเจาะในการคลำเป้าเท่านั้น

ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังเกมว่าเขาไม่อาจตำหนิลูกทีมได้เลยแม้จะบุกมาพ่าย นักบุญ เนื่องจากพลพรรค สุนัขจิ้งจอก เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม เว้นก็แต่ไม่มีความเด็ดขาดในการทำสกอร์

"นักเตะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่เริ่มเกม แน่นอนว่าเราทำเสียลูกโทษ แต่ แดนนี่ วอร์ด เซฟได้สำเร็จ และนับจากนั้นเราก็เล่นกันได้ดี มันเป็นเพียงจังหวะสุดท้ายเท่านั้นที่เรามีโอกาส แต่เราทำให้นายทวารของพวกเขาออกแรงไม่มากพอ"

"นักเตะทุ่มเททุกอย่างแล้ว และผมไม่อาจตำหนิพวกเขาได้ ผมคิดว่า เซาธ์แฮมป์ตัน เล่นได้ดีช่วงสั้นๆหลังยิงลูกโทษพลาด แต่เรากลับมาครองเกมได้ในครึ่งหลัง เราผิดหวังที่เสียประตู แต่เราเต็มที่แล้ว"

"เราเริ่มซีซั่นได้แย่กับการมีแต้มเดียวจากหกนัด จากนั้นเราก็มีผลงานดีขึ้นเป็นลำดับ แต่เราไม่มีความเสมอต้นเสมอปลายนับตั้งแต่จบศึก ฟุตบอลโลก เราจำเป็นต้องต่อสู้กันต่อไป"

"เมื่อผมเห็นทีมโชว์ฟอร์มได้เหมือนในคืนนี้ มันทำให้ผมมั่นใจ เรื่องที่น่ากังวลคือเราสร้างโอกาสไม่ได้ ผลเสมอก็นับน่าผิดหวังแล้ว แต่ผมรู้สึกดีกับนักเตะ"

ต่อข้อถามถึงอาการบาดเจ็บของ วิคเตอร์ คริสเตนเซ่น บีร็อด กล่าวว่า "เขาเจ็บข้อเท้าตอนซ้อม ดังนั้นเขาจะหายไปราวสี่สัปดาห์ มันน่าเสียดายเพราะเขาเล่นให้เราได้ดี"

สุดท้ายแล้ว ร็อดเจอร์ส ระบุถึงการหล่นอยู่ในโซนอันตรายที่เสี่ยงต่อการตกชั้นของ เดอะ ฟ็อกซ์ ว่า "ใช่ ผมรู้สึก มีหลายทีมที่อยู่ในข่ายนี้ ผมไม่คิดว่าทีมในกลุ่มกลางตารางจะเซฟเช่นกัน ยังมีเกมให้เล่นอีกมาก และหากเราโชว์ฟอร์มได้เหมือนนัดนี้ เราก็จะเก็บแต้มได้อย่างที่เราต้องการ"

คริสเตียน สเตลลินี่ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เผย อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียน จะหวนกลับมาทำหน้าที่นายใหญ่หลังเกมที่ต้นสังกัดจะพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 4 มีนาคมนี้

กุนซือเลือดมะกะโรนี วัย 53 ปี จำเป็นต้องพักฟื้นร่างกายอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดถุงน้ำดีอักเสบ โดยช่วงที่ผ่านมา คอนเต้ พยายามที่จะหวนกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้แพทย์ตัดสินใจสั่งห้ามเขาทำงานหนัก และต้องพักผ่อนอย่างเต็มที่

สเตลลินี่ ซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบงานแทน คอนเต้ ซึ่งพักฟื้นร่างกายในประเทศอิตาลี กล่าวว่า "ผมบอกได้เลยว่าเขาจะกลับมาในสัปดาห์นี้ หลังจบแมตช์ที่พบกับ วูล์ฟส์ เขาจะอยู่ที่ลอนดอน และทำหน้าที่คุมทีมตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป คุณหมอเป็นคนตัดสินใจในเรื่องนี้"

ขณะเดียวกัน สเตลลินี่ ยังได้กระตุ้นแข้ง "ไก่เดือยทอง" ให้ลืมเหตุการณ์ที่แพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-1 ตกรอบ 5 ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์นี้ และกลับมาทำผลงานให้ดีที่สุดในเกมลีกพบ วูล์ฟส์ ให้ได้ "เราต้องแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ทันทีเพราะเกมนั้น (พบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด) เราทำผลงานไม่ดีพอ และเราไม่อยากทำแบบนี้อีกครั้ง เราไม่อยากแสดงสิ่งนี้ให้แฟนบอลเห็นอีกครั้ง เราต้องสร้างสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งกลับคืนมา"

ทั้งนี้ สเปอร์ส รั้งอันดับ 4 มี 45 คะแนน โดยหลังจบเกมกับทัพ "หมาป่า" พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 วันพุธนี้ ซึ่งทีมดังจากแดนพาสต้า คว้าชัยชนะในแมตช์แรก ด้วยสกอร์ 1-0

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ บอกเอง ข่าวลือระหว่าง ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับ เฟเนร์บาห์เช่ ไม่มีความเป็นจริงแต่อย่างใด โดยแข้งวัย 31 ปียังสนใจในโปรเจ็กต์ของ "หงส์แดง" อยู่

ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลาง ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ได้กำลังคิดที่จะย้ายออกจากทีมแต่อย่างใด ตามรายงานของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวคนดัง

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีกระแสข่าวลืออย่างหนาหูว่า เฟเนร์บาห์เช่ ทีมแกร่งในเวที ซูเปอร์ลีก ตุรกี กำลังให้ความสนใจที่จะดึง ติอาโก้ ไปร่วมทัพ โดยว่ากันว่ามันถึงขั้นมีการติดต่อกันแล้วด้วย ซึ่งตอนนี้อนาคตของแข้งวัย 31 ปีก็เป็นประเด็นพอดี เพราะเขาเหลือสัญญากับ ลิเวอร์พูล จนถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด โรมาโน่ บอกเองว่าข่าวลือดังกล่าวไม่มีความเป็นจริงแต่อย่างใด โดยมันไม่เคยมีการติดต่อกันระหว่าง ติอาโก้ กับ เฟเนร์บาห์เช่ เลยด้วย แถมตอนนี้ ติอาโก้ ก็ยังให้ความสำคัญกับโปรเจ็กต์ของ ลิเวอร์พูล เท่านั้นเช่นกัน