"เลวาน-บังโม" นำโผ 6 ม้าเต็ง "บัลลงดอร์" ยุคปฏิรูปใหม่

[บ้านผลบอลคืนนี้]

นับถอยหลังรางวัลเกียรติยศ "บัลลงดอร์ 2022" ปีนี้ทางนิตยสารฟร้องซ์ ฟุตบอล โต้โผใหญ่ได้มีการประกาศว่าจะมีการ "ปฏิรูปใหม่" เปลี่ยนกฎแบบเป็นรูปธรรม 4 ข้อด้วยกัน

ข้อแรก จะเน้นที่ฟอร์มการเล่นโดยรวมของผู้เล่นเป็นสำคัญ มากกว่าการคว้ารางวัลถ้วยแชมป์ของสโมสรหรือทีมชาติ แม้ว่า "แชมป์" จะไม่ได้ถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิงก็ตาม

ข้อสอง พิจารณาจากผลงานในช่วงเวลาฤดูกาลปกติระหว่างเดือนสิงหาคม 2021 - กรกฎาคม 2022 ไม่ใช่ตามปีปฏิทิน (มกราคม-ธันวาคม) และจะมีการมอบรางวัลกันในเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ศึกฟุตบอลโลก 2022 ภาคเอเชียที่กาตาร์ ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน - 18 ธันวาคม จะไม่ถูกนำมาคิดรวมผลงานด้วย

ข้อสาม จะให้นักข่าวหรือตัวแทนเพียง 100 ชาติจากอันดับฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้งของฝั่งนักเตะชาย และท็อป 50 ของฝั่งนักเตะหญิง ที่จะมีสิทธ์ในการโหวตลงคะแนน ซึ่งต่างจากเดิมที่มีมิสิทธ์โหวต 170 ชาติ

ข้อสี่ จะเพิ่มผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากขึ้นในกระบวนการคัดชื่อนักเตะ 30 คนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จากที่ของเก่าใช้แค่กองบรรณาธิการฟร้องซ์ ฟุตบอล และนิตยสารเลอ กิ๊ป เท่านั้น นำมาโดย ดิดิเยร์ ดร็อกบา แบรนด์ แอมบาสเดอร์ของบัลลงดอร์

ผ่านไปแล้วกว่าครึ่งทางของฤดูกาล 2021/22 – และนี่คือ 6 รายชื่อตัวเต็งสำหรับ "บัลลงดอร์ 2022" ที่กำลังก่อตัวขึ้นแบบเห็นหัวเห็นหาง และไม่น่าจะหลุดโผไปจาก 6 ชื่อนี้...

1. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค)



บุนเดสลีกาผ่านไปแล้ว 28 นัด เลวานกดรัวๆ 31 ประตู นำดาวซัลโวทิ้งอันดับ 2 แพทริค ชีค หอกเช็กจากแอร์ไบ ไลป์ซิกห่างไกลถึง 11 ประตู ไล่ทันยาก นอกจากนี้ยังกดยับในแชมเปี้ยนส์ ลีก 8 นัด 12 ประตู รวมถึงแฮตทริกที่เร็วที่สุดใน UCL เกมถล่ม เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก 7-1 ด้วยเวลาเพียง 23 นาทีนับตั้งแต่เริ่มเกม สถิติตัวเลขเหล่านี้แทบจะเป็นกิจวัตรสำหรับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

หัวหอกโปลพลาดรางวัลนี้ใน 2 ครั้งที่ผ่านมาแบบ "เจ็บปวด" ครั้งนึงจากโควิด และครั้งล่าสุดจาก ลิโอเนล เมสซี่ ที่หลายเสียงบอกว่าโคตร "ไม่แฟร์" และมันต้องได้รับการแก้ไขในฤดูกาลนี้ บาเยิร์นแทบจะการันตีแชมป์บุนเดสลีกาไปแล้ว และเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะครองบัลลังก์ถ้วยใหญ่ยุโรป

ถึงกระนั้น ก็ยังมีคนโหวตที่ไม่มั่นใจในตัวเขาจากครั้งที่แล้ว ซึ่งต้องมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรในการประกาศผลของปีนี้...ฟรองซ์ ฟุตบอล จะสามารถทำแฮตทริกแห่งความผิดหวังโดยมองข้ามซูเปอร์สไตรเกอร์คนนี้ได้หรือไม่?

2. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)



ฟอร์มอลังการงานสร้างในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ โม ซาลาห์ ก้าวจากความเก่งไปสู่ความเก่งมากขึ้นเรื่อยๆแบบยังมองไม่เห็นที่สิ้นสุด

บังโม ยิงไป 16 ประตู จาก 21 นัดในพรีเมียร์ลีก ก่อนที่จะไปรับใช้ชาติในศึกแอฟริกัน คัพ เนชั่นส์ เป็น "เดอะ แบก" ทำประตูสำคัญๆตลอดเส้นทาง แต่สุดท้ายน่าเสียดาย ทีมชาติอียิปต์ ไปไม่สุดทางจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ขณะที่เจ้าตัวก็ติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ไปด้วย

ถึงช่วงต้นเดือนเมษายน สตาร์หงส์แดงซัดไปแล้ว 20 ประตูในพรีเมียร์ลีก ขึ้นแท่นว่าที่ดาวซัลโวเพราะนำหน้า ซน ฮึง-มิน จากคลับไก่ และเพื่อนร่วมแอนฟิลด์อย่าง ดีเอโก้ โชต้า อันดับ 2 ร่วมอยู่ 6 ประตู นอกจากนี้เขายังทำไปอีก 8 ประตูในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ลิเวอร์พูล เข้าถึงรอบ 8 ทีมไปเจอกับ เบนฟิก้า ยักษ์ใหญ่โปรตุเกส และบุกไปชนะ 1-3 ในเกมเลกแรก ทำให้ทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์ ยังอยู่ในเส้นทางประวัติศาสตร์ลุ้น 4 แชมป์

เมื่อรางวัล "บัลลังดอร์" มีการ "ปฏิรูปใหม่" นับแค่จบซีซั่นนี้ไม่รวม "ฟุตบอลโลก" ที่ทีมมัมมี่พลาดท่าไม่ได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่า "เดอะ คิง อียิปต์" แห่งแอนฟิลด์ จะกลายเป็นแข้งแอฟริกันคนที่สองต่อจาก "จอร์จ เวอาห์" ที่จะคว้ารางวัลไปครอบครอง

3. คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด)



เจ้าของสถิติอายุมากที่สุด 34 ปีกว่าๆ ที่ทำแฮตทริกได้ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ในเกมที่เรอัล มาดริด เอาชนะ เปแอสเช 3-1 ในรอบ 16 ทีมนัดสอง ต่อด้วยการกดแฮตทริกได้ 2 เกมติดต่อกันเป็นคนที่ 4 ในถ้วยนี้ ที่เป็นเกมในรอบ 8 ทีมที่บุกไปเอาชนะ เชลซี 1-3 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์มาหมาดๆ

เบนเซม่า ระเบิดฟอร์มทำไปแล้ว 11 ประตูจาก 8 นัดใน UCL และนำเป็นดาวซัลโวลาลีกาแบบทิ้งห่าง 24 ประตูจาก 26 นัด บวกอีก 11 แอสซิสต์ ที่ตอนนี้ราชันชุดขาวจ่อคว้าแชมป์ลีกแบบไม่มีปัญหา

อ้อ นอกจากนี้ "เบนซ์" ก็เป็นส่วนหนึ่งในทัพเลอ เบลอส์ ทีมชาติฝรั่งเศส ที่คว้าแชมป์เนชั่นส์ ลีก โดยทำประตูประตูได้ในเกมนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย จากม้ามืดตอนนี้เขาเป็นตัวเต็งร่วมของรางวัลบัลลงดอร์ปีนี้ไปแล้ว


4. ลิโอเนล เมสซี่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)



แชมป์เก่าจากปี 2021 ลิโอเนล เมสซี่ เองก็ยอมรับในการกล่าวสุนทรพจน์หลังขึ้นรับรางวัลว่าไม่ใช่ปีที่ดีที่สุดในอาชีพการเล่นของเขา และในปี 2022 นี้ก็อาจเป็นปีที่ยากลำบากมากกว่าเดิมสำหรับเขาด้วย

อดีตเทพต่างดาวเจ้าของบัลลงดอร์ 7 สมัย ยิงในลีกเอิงซีซั่นนี้ไปแค่ 3 ประตูจาก 19 นัด และ 5 ประตูจาก 7 นัดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เปแอสเชกระเด็นตกรอบ 16 ทีมไปเรียบร้อย อีกทั้งก็ไม่มีตัวช่วยจากทัวร์นาเมนต์นานาชาติอย่างฟุตบอลโลกในซัมเมอร์นี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ปารีสก็คือเมืองหลวงของฝรั่งเศส ฟรองซ์ฟุตบอลจะมองข้ามเขาไปได้จริงๆหรือ? เมสซี่ที่รัก (ของแฟนบอลทั่วโลก) คือชายที่คุณไม่สามารถกาชื่อออกไปได้

5. คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)



เขาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อนร่วมทีมเปแอสเช การตกรอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ ลีกได้บั่นทอนความฝันของเขากับรางวัล "ลูกบอลทองคำ" ลงไปแทบหมดสิ้น ซึ่งถึงแม้ว่าจะเขาจะนำฝรั่งเศสไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา

แต่อย่างน้อย คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ก็มีหนึ่งโทรฟี่อยู่ในมือไปแล้วเมื่อ "ตราไก่" ทีมชาติฝรั่งเศส ได้ประตูชัยท้ายเกมแซงชนะ สเปน 2-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า เนชันส์ลีก ไปครอง และอีกหนึ่งโทรฟี่ชัวร์ๆที่เปแอสเชจะเข้าป้ายแชมป์ลีกเอิงแบบไร้ปัญหา

หากรางวัลนี้เลือกจากความสามารถและพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว เอ็มบัปเป้ ก็คงอยู่ใน 2 อันดับแรก เขาอาจจะต้องทำประตูเพิ่มเพื่อแซงหน้า วิสซัม เบน เยดแดร์ จากโมนาโก เพื่อคว้าดาวซัลโวลีกเอิง เพิ่มโอกาสในการต่อสู้กับชื่ออื่นๆในลิสต์นี้ แม้ว่า...ริบหรี่


6. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)



จอมทัพเบลเจี้ยนกลับมาลงสนามได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหมาะสม หลังจากที่ช่วงครึ่้งฤดูกาลแรกกระท่อนกระแท่นจากปัญหาอาการบาดเจ็บ กลับมาก็ทำประตูได้ในเกมสำคัญที่พบกับ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมนำเรือใบสีฟ้าไล่ล่า 3 แชมป์ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้

แม้ว่ามองในภาพรวมแล้วเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ชูเอา คันเซโล่ จะทำผลงานได้เข้าตามากกว่า แต่เราไม่สามารถมองข้ามความเป็นซูเปอร์สตาร์ของ เควิน เดอ บรอยน์ ไปได้อย่างแน่นอน

ถ้าทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ ชื่อของ KDB พร้อมจะทะลุปล้องขึ้่นมาสอดแทรกคว้าบัลลงดอร์ไปได้เหมือนกันนะจะบอกให้!