เรามีเว็บรวมคาสิโนออนไลน์มากกว่า 66 ค่ายเอาไว้ให้ได้เล่นกัน

  • Welcome to รีวิวเว็บคาสิโนออนไลน์ ที่น่าเล่นในไทยมากกว่า 66 เว็บไซต์. Please log in or sign up.

หลบจนแขนหลุด : อาลี vs ลิสตัน 1964 ... ไฟต์พลิกประวัติศาสตร์รุ่นเฮฟวี่เวต

เริ่มโดย sacasino999, เม.ย 01, 2022, 04:49 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

sacasino999



25 กุมภาพันธ์ 1964 คือวันสำคัญของวงการมวยโลก มันคือวันที่ แคสเซียส เคลย์ ได้กลายเป็นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตสมัยแรก จากการเอาชนะนักชกปีศาจอย่าง ซอนนี่ ลิสตัน

หลังจากจบไฟต์นั้น เคลย์ กลายเป็น มูฮัมหมัด อาลี ก่อนสร้างตำนานมากมายในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้มาก่อน

และประวัติศาสตร์ทั้งหมดถูกเริ่มเขียนในไฟต์นี้ เมื่อ อาลี ในวัย 22 ปี ประกาศตัวให้โลกรู้ว่า "จงอย่าตกใจหากต่อจากนี้เขาจะกลายเป็นราชาของโลก"

นี่คือเรื่องราวในค่ำคืนพลิกล็อกและสร้างจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

ติดตามได้ที่ Main Stand

ไอ้หนุ่มนวมทอง กับ นักชกที่ดีที่สุดในโลก

ก่อนไฟต์ประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงวงการมวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวตไปตลอดกาลจะเกิดขึ้น คงต้องย้อนกลับไปไกลตั้งแต่สมัย มูฮัมหมัด อาลี ยังคงใช้ชื่อว่า แคสเซียส เคลย์ ชื่อแรกและชื่อเดิมตั้งแต่เขาเกิดมา



เรื่องความเก่งคงไม่ต้องอธิบายเยอะ เพราะบั้นปลายได้พิสูจน์แล้วว่า เคลย์ หรือ อาลี กลายเป็นสุดยอดนักชกที่ดีที่สุดคนหนึ่งของวงการ ไล่เก็บแชมป์มาตั้งแต่การชกสมัครเล่น ได้รับรางวัลนวมทอง ต่อยอดไปจนถึงขั้นคว้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกมาแล้ว

แต่สิ่งที่ยิ่งกว่าความเก่งกาจด้านฝีมือมันคือสิ่งที่เรียกว่าคาแร็กเตอร์ ในยุคสมัย 60 ปีที่แล้ว คุณไม่มีทางนึกภาพออกได้เลยว่านักกีฬาคนหนึ่งจะสร้างอิมแพ็กต์ถึงขั้นเขย่าทั้งโลก สิ่งที่อาลีทำเมื่อ 60 ปีก่อนเหมือนกับสิ่งที่นักกีฬายุคปัจจุบันหลายคนทำ นั่นคือการทำมาร์เก็ตติ้งให้ตัวเอง ทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ยกตัวอย่างเช่น เดวิด เบ็คแฮม ที่ต่อให้คนไม่ได้ดูฟุตบอลก็ยังร้องอ๋อ นึกชื่อได้นึกภาพออกในทันที

อาลี มาก่อนกาล และการสร้างคาแร็กเตอร์ของเขาคือสุดยอดมาร์เก็ตติ้งที่โลกของวงการกีฬาต้องจดจำ นั่นคือเขารู้ว่าพูดแบบไหนสื่อถึงจะสนใจ ทำแบบไหนถึงจะถูกแฟนมวยจดจำ และสุดท้ายสำคัญที่สุดคือเขารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายในการสร้างแฟนของเขาคือคนกลุ่มไหน

สิ่งเหล่านี้ดูคล้าย ๆ กับการสร้างภาพ เพียงแต่สิ่งที่ อาลี ทำมันเป็นธรรมชาติมาก มากเสียจนเขาได้ใจผู้คนไปครอบครองและถูกจดจำได้โดยง่าย

ก่อนขึ้นเวทีชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวตครั้งแรกกับ ซอนนี่ ลิสตัน ... อาลี ให้สัมภาษณ์ระดับตำนานไว้ 1 ประโยค มันทำให้ทุกคนต้องหันมามองจนจดจำชื่อแซ่และภาพลักษณ์ของเขาได้ในทันที ถึงขั้นมีการตั้งฉายาว่า "หลุยส์วิลล์ ลิปส์" (ไอ้ปากดีจากหลุยส์วิลล์) เลยทีเดียว



"ไฟต์นี้จะเป็นไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกแห่งหมัดมวยเคยมีมา ผมอายุ 22 ปี แต่ผมคนนี้แหละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผมคุยกับโลกได้ทั้งใบ ผมเสวนากับพระเจ้าทุกวัน และถ้าพระเจ้าอยู่ข้างผม รับรองว่าไม่มีใครหน้าไหนมาหยุดผมได้ทั้งนั้น ผมจะเขย่าโลกนี้ด้วยกำปั้น ผมคือราชาที่แท้จริงของโลกใบนี้ ผมแม่งโคตรจะหล่อเท่ ผมมันเป็นไอ้เสือร้ายสุดโฉด ย้ำอีกที ผมคนนี้แหละจะเขย่าโลกโว้ย" อาลี กล่าวก่อนวันขึ้นชกไม่กี่สัปดาห์

การพูดแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติของวงการมวย แต่การที่คุณจะพูดแบบนี้ได้คุณจะต้องมีความมั่นใจที่สูงส่งเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคู่ชกของคุณคือแชมป์โลกที่ว่ากันว่าฝีมือดีที่สุดในเวลานั้น เขาคือคนอย่าง ซอนนี่ ลิสตัน

ก่อนขึ้นชกไฟต์ดังกล่าว ลิสตัน อายุ 33 ปี แม้จะเข้าวัยเลข 3 ไปแล้ว แต่ลิสตันคือยอดมวยแห่งยุค 50-60s ของจริงของแท้ การันตีโดยการชนะนักชกเฮฟวี่เวตที่เก่งที่สุดในโลกตามที่สื่อยกย่อง ณ เวลานั้นอย่าง ฟลอยด์ แพตเทอร์สัน ได้ถึงสองครั้งสองครา

ถ้าคุณยังนึกภาพความเก่งของ ฟลอยด์ แพตเทอร์สัน ที่ ลิสตัน เอาชนะได้ก็คือ เขาเป็นนักชกที่ได้รับการฝึกฝนจาก กัส ดามาโต้ ชายผู้ปลุกปั้น ไมค์ ไทสัน ในยุค 80s ให้เป็นนักชกเฮฟวี่เวตแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 21 ปี และเป็นผู้ให้กำเนิดการชกที่เรียกว่า "Peek a boo" สไตล์ไม้ตายที่ไทสันใช้เขย่าโลกในอีก 30 ปีให้หลัง ... ชายคนนี้แหละที่ ลิสตัน เอาชนะได้ถึงสองครั้ง



ดังนั้นการที่เด็กหนุ่มอย่าง อาลี ผู้กำลังขึ้นรุ่น พูดแบบนั้นและสื่อตรงไปถึง ลิสตัน ว่ายุคสมัยของแชมป์โลกคนเฒ่าจะหมดไป ยุคสมัยใหม่จะเข้ามาแทนที่ พระเจ้าแห่งวงการมวยคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว เป็นการตบหน้า ลิสตัน อย่างแรง

ความแค้นเริ่มก่อตัวขึ้นพร้อม ๆ กับการอยากสอนเชิงให้รู้สึกถึงพลังของแชมป์โลก ขณะที่สื่อเองก็สนุกสนานกับการทำข่าวครั้งนั้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

ยิ่งไมค์จ่อปากอาลีเท่าไหร่ไฟต์นี้ก็ยิ่งน่าติดตาม เช่นเดียวกันกับเมื่อมีไมค์ไปจ่อปากลิสตัน รุ่นใหญ่แห่งวงการก็ตอกกลับไปอย่างสมน้ำสมเนื้อ การลั่นกลองรบที่น่าตื่นเต้นที่สุดของวงการมวยโลกเกิดขึ้นแล้ว

เก่งแค่ไหน ... วัดกันบนเวที

อัตราการต่อรองก่อนขึ้นชกไหลเข้ามาทางฝั่ง ลิสตัน โดยมีราคาที่แทง 7 ได้ 1 ไม่รวมทุน ขณะที่่ฝั่ง อาลี หรือ แคสเซียส เป็นมวยรองเต็มรูปแบบ ราคาบ่อนเปิดสวนกันที่แทง 1 จ่าย 7 เรียกง่าย ๆ ว่าลงทุนบาทเดียวได้เงินกลับมาถึง 7 บาท หากอาลีเป็นฝ่ายชนะ

ว่ากันตามกลยุทธ์ของอัตราต่อรอง ราคามันชี้ชัดว่า ลิสตัน ชนะแน่ ... ทุกคนคิดว่าเขากลับมากระหายและตั้งใจอีกครั้งหลังจากโดน อาลี ปากดีใส่ และนักชกเจ้าของสถิติ ชนะ 35 แพ้ 1 (ชนะน็อก 25) อย่าง ลิสตัน ได้สอนมวยเด็กปากดีคนใหม่แห่งวงการแน่



"แคสเซียส เคลย์ ไม่น่าใช่ของจริง เขาแค่อวดดี ผาดโผนในการแสดงกิริยา ทำตัวเหมือนกับตัวตลก แตกต่างกับนักชกที่อันตรายทุกฝีก้าวอย่าง ซอนนี่ ลิสตัน ... ไม่ต้องกังวลอะไรกับการเรียกร้องความสนใจก่อนชกหรอก" ไมเคิล คาร์เบิร์ต (Michael Carbert) กูรูมวยของเว็บไซต์ The Fight City เล่าย้อนกลับไปเวลานั้น

"กูรูมวยฟันธง มีแต่คนไร้สมองเท่านั้นที่เชื่อว่า เคลย์ จะชนะ ลิสตัน ที่ตัวใหญ่และทรงพลัง ชายผู้เอาชนะ แพตเทอร์สัน ได้สองรอบ แขนใหญ่เท่ากับกิ่งต้นโอ๊ก หมัดหนักอย่างกับค้อนปอนด์ เขาคือปีศาจที่พร้อมจะใจร้ายกับทุกคน เขามีทุกอย่าง แต่เขาแค่เลือกจะปิดปากของตัวเองไว้"

 

แม้ปากจะไม่พูดคุยโวโอ้อวดตัวเองอะไรแบบนั้น แต่การชกของ ลิสตัน ณ สนามมวย คอนเวนชัน ฮอลล์ ที่ ไมอามี บีช ท่ามกลางคนดู 8,300 คน ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อระฆังยกแรกดัง ภาษากายของ ลิสตัน บอกทุกคนได้ทันทีว่า เขาตั้งใจจะสอนมวยอาลีจริง ๆ ด้วยการเดินหน้าซัดกันให้หลับตั้งแต่ไก่โห่เลยด้วยซ้ำ ติดเพียงอย่างเดียวที่ไม่ทำให้สิ่งที่เขาคิดเกิดขึ้น สิ่ง ๆ นั้นคือฟุตเวิร์กของอาลีนั่นเอง

ฟุตเวิร์กของ อาลี ดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา ไม่มีใครอีกแล้วในรุ่นเฮฟวี่เวตที่จะสามารถเต้นบนสังเวียนผ้าใบได้อย่างเขา เหตุผลง่ายนิดเดียวไม่มีอะไรซับซ้อน สิ่งนั้นมาจากการซ้อมหนักและมีวินัยกับตัวเองเคร่งครัดเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ตอนที่เขาเป็นนักมวยเท่านั้น อาลี เริ่มดูแลตัวเองมาตั้งแต่ที่คิดได้ว่าเขาอยากจะฝึกชกมวยแล้ว

สมัยที่เรียนอยู่ชั้นไฮสคูล อาลี เลือกจะใช้การวิ่งไปโรงเรียนแทนการขึ้นรถบัส เขาทิ้งชีวิตวัยรุ่นทิ้งไปเกือบหมด เขาปฏิเสธบุหรี่ เหล้า เบียร์ และของที่ไม่ดีต่อสุขภาพทุกชนิด ดื่มน้ำผสมกระเทียมเพื่อลดความดันโลหิต และเทรนเนอร์ผู้ฝึกซ้อมให้เขาเคยบอกไว้ว่า "เขาเป็นคนแรกที่มาถึงยิมแล้วกลับออกไปเป็นคนสุดท้ายเสมอ เขาเป็นเด็กที่มีวินัยมากเลยทีเดียว" นั่นแหละคือที่มาของฟุตเวิร์กที่ได้ฉายาว่า "พริ้วเหมือนผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง"




SITEMAP : รีวิวคาสิโนออนไลน์ บทความน่าสนใจ | แนะนำเว็บคาสิโนที่น่าเล่นที่สุดสำหรับคุณ