รีวิวเว็บคาสิโนออนไลน์ ที่น่าเล่นในไทยมากกว่า 66 เว็บไซต์

REVIEW 66 CASINO NEWS => รีวิวคาสิโนออนไลน์ บทความน่าสนใจ => หัวข้อที่ตั้งโดย: บ้านผลบอลคืนนี้ เมื่อ เม.ย 17, 2022, 11:47 หลังเที่ยง

ชื่อ: วิเคราะห์บอล !! เอฟเอ คัพ รอบรองฯ แมนฯซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล 16 เม.ย.65
โดย: บ้านผลบอลคืนนี้ เมื่อ เม.ย 17, 2022, 11:47 หลังเที่ยง
(https://img.pptvhd36.com/thumbor/2022/04/15/news-4011dab33c.jpg)

วิเคราะห์บอล !! เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล

ปรีวิว เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2565
(1) แมนเชสเตอร์ ซิตี้-ลิเวอร์พูล (2)
สนาม : เวมบลีย์ (ลอนดอน) เวลาคิกออฟ : 21.30 น.
ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์

ผลงานการพบกันในฤดูกาลนี้
10 เม.ย.65        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล  (พรีเมียร์ลีก)
3 ต.ค.2564       ลิเวอร์พูล 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)

ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
7 ก.พ.2564       ลิเวอร์พูล  1-4  แมนเชสเตอร์ ซิตี้   (พรีเมียร์ลีก)
8 พ.ย. 2563      แมนเชสเตอร์ ซิตี้  1-1 ลิเวอร์พูล    (พรีเมียร์ลีก)

(https://img.pptvhd36.com/thumbor/2022/04/15/c57093065e.jpg)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผลงานในเอฟเอ คัพ
รอบ 3 : ชนะ สวินดอน                       4-1 (เยือน)
รอบ 4 : ชนะ ฟูแล่ม                          4-1 (เหย้า)
รอบ 5 : ชนะ ปีเตอร์โบโร่                   2-0 (เยือน)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1 (เยือน)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
13  เม.ย.2565  เสมอ แอต.มาดริด     0-0 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
10 เม.ย.2565 เสมอ ลิเวอร์พูล           2-2  (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 
5  เม.ย.2565  ชนะ แอต.มาดริด         1-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
2 เม.ย.2565   ชนะ เบิร์นลี่ย์              2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
20 มี.ค.2565  ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน       4-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ

สภาพทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นัดล่าสุดบุกไปเสมอ แอต.มาดริด 0-0 ชนิดที่เกือบตะลุมบอลในเกมถ้วยยุโรป รอบ 8 ทีมนัดที่ 2 ทำให้ทะลุเข้ารอบรองยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เกมดังกล่าวก็ต้องเสียทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ และ  เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งไม่น่าจะหายกลับมาทัน ส่วน ฟิล โฟเด้น ที่หัวแตกจากเกมเดียวกันน่าจะลงเล่นได้รูเบน ดิอาส ปราการหลังหายเจ็บต้นขา พร้อมทวงพื้นที่ในแดนหลังคืน ทำให้ จอห์น สโตนส์ จะขยับไปยืนทางขวาแทน วอล์คเกอร์ หรือใช้ ชูเอา กานเซโล่ เล่นแทนและเลือก นาธาน อเก้ หรือไม่ก็ให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ อยู่ทางซ้าย แดนกลาง  อิลคาย กุนโดกัน จะมารับบบทบาทแทน เควิน เดอ บรอยน์  ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น่าจะได้ลงเป็นตัวจริงในการเจอทีมเก่า หลังนัดเมื่อกลางสัปดาห์เกมยุโรป ถูกดร็อปนั่งสำรอง อีกทั้ง กาเบรียล เชซุส ที่กลับมาจากการถูกแบนใน แชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมเป็นทางเลือก


ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส; ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, อายเมริก ลาปอร์ต,  โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ;  แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน  ; กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แจ็ค กรีลิช


ลิเวอร์พูล
รอบ 3 : ชนะ ชูร์ว์สบิวรี่                        4-1 (เหย้า)
รอบ 4 :  ชนะ คาร์ดิฟฟ์                        1-0  (เหย้า)
รอบ 5 :  ชนะ นอริช ซิตี้                       2-1 (เหย้า)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย :  ชนะ ฟอเรสต์          1-0 (เยือน)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
13  เม.ย.2565  เสมอ เบนฟิก้า               3-3 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
10 เม.ย.2565  เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้    2-2  (เยือน) พรีเมียร์ลีก 
5  เม.ย.2565   ชนะ เบนฟิก้า                 3-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
2 เม.ย.2565     ชนะ วัตฟอร์ด                2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
20 มี.ค.2565    ชนะ ฟอเรสต์                1-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ


สภาพทีมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมเปิดบ้านเสมอ เบนฟิก้า 3-3 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมนัดแรก รวมผล 2 นัดผ่านเข้ารอบรองฯ เกมนี้ ดิโอโก้ โชต้า ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมบอลถ้วยใหญ่เมื่อ กลางสัปดาห์ แม้จะไม่หนักแต่เชื่อว่า คล็อปป์ ไม่น่าเสี่ยงลง และคงเป็น หลุยส์ ดิอาซ ที่ยังคงยืนเป็ยนสามประสานร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ที่ 2 รายหลังจะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะถูกเรียกกลับมายืนในแผงแบ๊กโฟร์ทั้งหมด ติอาโก้ อัลคานทาร่า และ ฟาบินโญ่ จะได้คืนตัวจริงเช่นกัน หลังถูกดร็อปไปในเกมกับ เบนฟิก้า

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลิสซง เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โฌแอล มาติ๊ป, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลคานทาร่า ; โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ

เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-เป็นการพบกันนัดที่ 220 ของทั้ง 2 ทีมในทุกรายการ โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 58 ลิเวอร์พูล ชนะ 105 นัด และเสมอกันไป 56 นัด
-ในฤดูกาลนี้ทั้งสองทีมเล่นที่เวมบลีย์ มาแล้ว โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ เลสเตอร์ ในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ ได้แชมป์ คาราบาว คัพ
-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ไม่เคยพบกันในถ้วยเอฟเอ คัพ นับตั้งแต่ครั้งหลังสุดในฤดูกาล 2003 ซึ่งในครั้งนั้นทั้งคู่พบกันในรอบ 3  ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล บุกไปชนะ 1-0 ที่เมนโร้ด (สนามเดิม) จากจุดโทษของ แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์
-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูลเคยพบกัน 2 ครั้งที่สนามเวมบลีย์ แห่งนี้ โดยทั้งสองเกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ก่อนไปดวลจุดโทษ ซึ่งก็เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้รับชัยชนะทั้งสองครั้งในปี 2016 (นัดชิงลีก คัพ) และ 2019 (คอมมิวนิตี้ชิลด์)
-นี่ถือเป็นการพบกันครั้งแรกในเอฟเอ คัพ ระหว่างทีมที่อยู่ 2 อันดับต้นของตารางพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน นับตั้งแต่  ฤดูกาล 2016-2017 ซึ่งเกิดขึ้ยในรอบรองชนะเลิศระหว่างเชลซีกับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์  โดยเป็น เชลซี ชัยไป 4-2  อีกครั้ง คือในรอบรองชนะเลิศเช่นกันในฤดูกาล 1998-99 ซึ่งเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับ อาร์เซน่อล หลังจากรีเพลย์ เป็นทีม "ปิศาจแดง" ชนะ 2-1
-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นในเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา โดยพลาดไปเพียงในฤดูกาล 2017-2018 ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดอยู่ภายใต้การทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างไรก็ตามใน 4 ครั้งที่ผ่านมาในรอบนี้ ก็ชนะเพียงเกมเดียว
-ลิเวอร์พูล ชนะ 8 ใน 10 เกมรองชนะเลิศในเอฟเอ คัพ โดย 2 เกมที่ทำไม่สำเร็จคือในฤดูกาล 1989-1990 (กับคริสตัล พาเลซ) และในฤดูกาล 2014-2015 ภายใต้การคุมทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ทีพบกับ แอสตัน วิลล่า).
-ทั้ง 2 ทีมจบด้วยผลเสมอมาเหมือนกันใน 2 นัดล่าสุดของทุกรายการ
-นี่ถือเป็นเกมการแข่งขันครั้งที่ 24 ระหว่าง 2 กุนซืออย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่โคจรมาเจอกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายบันทึกชัยชนะเท่ากันที่ 8 ครั้ง และเสมอกัน 7 ครั้ง (ทั้งนี้รวมถึงโปรแกรมที่ตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ)
-แมนเชสเตอร์ ซิตี้  ไม่แพ้ลิเวอร์พูล มาแล้ว 5 นัดติด (ชนะ 2 เสมอ 3) โดยความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดของ "เรือใบสีฟ้า" คือแพ้ที่ แอนฟิลด์ 3-1 ในฤดูกาล 2019-2020