(https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa5nRJdvyH5BbVlrKCJwlIBEh1mKkaGTm725T22GyDwXlNHUcwDAc.jpg)
สหภาพนักฟุตบอล จับตาดูมหากาพย์ เฟรงกี เดอ ยอง กับ บาร์เซโลนา หลังนักเตะถูกบีบให้ย้ายไป แมนยูฯ และส่อโดนลดหนี้ค่าเหนื่อยอีก
วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 เดอะ ไทม์ส สื่ออังกฤษรายงานว่า สหภาพนักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ (ฟิฟโปร) กำลังหันมาจับตาดูกรณีพิพาทระหว่าง เฟรงกี เดอ ยอง กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กับ บาร์เซโลนา ต้นสังกัดในศึกลา ลีกา สเปน หลังจากตัวผู้เล่นถูกบีบให้ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่อยากได้ตัวไปร่วมงาน
ทั้งนี้ เฟรงกี เดอ ยอง ยังไม่ต้องการย้ายทีมในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ เนื่องจาก บาร์ซา ยังค้างค่าเหนื่อยอยู่ 17 ล้านปอนด์ (756.5 ล้านบาท) ซึ่งสโมสรขอร้องให้เขาลดค่าจ้างลงในช่วงวิกฤติโควิด-19
แต่ "เจ้าบุญทุ่ม" เคยตกลงค่าตัวรวมโบนัสในอนาคตของดาวเตะวัย 25 ปี กับ แมนยูฯ ได้แล้วที่ 72 ล้านปอนด์ (3,204 ล้านบาท) เพื่อขายเขาออกไป และเปิดทางให้กับนักเตะใหม่ที่คว้ามาทั้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, ราฟินญา, ฟรองค์ เกสซิเย, อันเดรียส คริสเตนเซน และ ฌูลส์ คุนเด
ล่าสุด เดอะ ไทม์ส ระบุว่า บาร์ซา กำลังหาทางบีบให้ เฟรงกี เดอ ยอง ยอมรับการจ่ายหนี้ค่าเหนื่อยเพียง 6 ล้านปอนด์ (267 ล้านบาท) ซึ่งทำให้เขาจะเสียผลประโยชน์ถึง 11 ล้านปอนด์ (489.5 ล้านบาท) ด้วยเหตุนี้จึงมีรายงานว่าคนวงในของ ฟิฟโปร ยืนยันว่ากำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
เมื่อเร็วๆ นี้ แกรี เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาแมนยูฯ และทีมชาติอังกฤษ เพิ่งออกมาแนะนำให้ เฟรงกี เดอ ยอง ฟ้องร้อง บาร์ซา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากสโมสรไม่ยอมจ่ายค่าจ้างที่ติดค้างไว้ แต่กลับทุ่มเงินมากมายในการคว้านักเตะใหม่มาเสริมทัพหลายราย พร้อมฝากถึง ฟิฟโปร ว่าให้เข้ามาจัดการสะสางปัญหานี้ด้วย