ขาดความมั่นใจ! เชลซีจบไม่คมไล่เจ๊าเลสเตอร์แทบการันตีอันดับ 3

[สยามกีฬาวันนี้]

"สิงห์บลูส์" ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล เกมนี้โอกาสจบสกอร์มากถึง 20 ครั้งแต่ทำได้เพียงไล่เจ๊า "สุนัขจิ้งจอก" เก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนนแม้นำ สเปอร์ส เพียง 3 แต้มแต่ ประตูได้-เสีย ดีกว่าเยอะแทบการันตีจบอันดับ 3 แน่นอนแล้ว ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 37 คืนวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2565 จากสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ "สิงห์บลูส์" ทีมอันดับ 3 ต้อนรับ "สุนัขจิ้งจอก" อันดับ 9 ของตาราง

    โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี พาทีมถล่มลีดส์ ยูไนเต็ด 3-0 ในเกมลีกล่าสุด ก่อนแพ้จุดโทษลิเวอร์พูล ในนัดชิงเอฟเอ คัพ ชวดแชมป์เป็นครั้งที่ 2 ในซีซั่นนี้ ส่วนทาง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ เลสเตอร์ พาทีมถล่มวัตฟอร์ดขาดลอย 5-1 ในเกมล่าสุด เป็นการคว้าชัย 2 นัดติด

    เปิดฉากครึ่งแรก 5 นาที "สิงห์บลูส์" ทักทายก่อน ฮาคิม ซิเย็ค เก็บบอลหน้าเขตโทษพลิกหนี ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ ได้ช่องตะบันด้วยซ้ายกระดอนพื้นผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล หลุดเสาแรกนิดเดียว

    แต่แล้วนาทีต่อมากลายเป็น เลสเตอร์ ทะยานออกนำ 1-0 ติโมธี คาสตาญ สอดขึ้นมาทางขวาตบเข้าในแฉลบ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ย้อนมาเข้าทาง เจมส์ แมดดิสัน แต่งหนี ติอาโก้ ซิลวา ปั่นด้วยขวาโค้งเบียดเสาแรกงามหยด

    นาทีที่ 10 เชลซี หวิดตามตีเสมอจากบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวา เทรโวห์ ชาโลบาห์ เติมขึ้นมาก้มหน้าตะบันเต็มข้อแหวกบล็อค ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ เกือบเสียบใต้คานติดปลายมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผวาปัดออกหลัง

    30 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น พลาดโอกาสทอง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ดักตัดบอลกลางสนามแทงเร็วเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ โรเมลู ลูกากู หลุดกับดักล้ำหน้าแต่จังหวะยิงช้าโดน ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ ตามมาบล็อคได้ทัน

    นาทีที่ 35 เชลซี ตามตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ รีซ เจมส์ เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวายกข้ามไปเสาไกลข้ามหัวแนวรับ เลสเตอร์ ทั้งแผงมาเข้าทาง มาร์กอส อลอนโซ่ สอดมาตะบันด้วยซ้ายตามน้ำกระดอนพื้นเสียบเสาแรกตุงตาข่าย

    หมดครึ่งเวลาแรก เชลซี 1 เลสเตอร์ 1

    นาทีที่ 55 "สุนัขจิ้งจอก" ออกหมัดก่อนจากจังหวะประสานงานสุดสวย เจมส์ แมดดิสัน ชิ่งเร็วคืนให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ สอดมาได้ช่องอัดด้วยซ้ายปลิ้นหลังเท้าเหินข้ามคานออกไปไกล

    60 นาทีผ่าน "สิงห์บลูส์" ตอบโต้บ้าง ฮาคิม ซิเย็ค ปั่นฟรีคิกระยะอันตรายไปเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ก่อนจังหวะต่อเนื่องได้ลองตะบันด้วยซ้ายอีกรอบก็ยังไม่ดีพอเปลี่ยนเป็นประตูแซงนำ

    2 นาทีต่อมา เชลซี พลาดโอกาสทอง รีซ เจมส์ แทงบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ โรเมลู ลูกากู ตบเร็วถวายพานมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง คริสเตียน พูลิซิช ตั้งเท้าชาร์จแบบไร้ตัวประกบปลิ้นออกหลังเหลือเชื่อ

    นาทีที่ 66 เจ้าถิ่น ขึงเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียว อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เติมเกมสูงขยับมารับบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนหมุนตัวซัดก็ยังไม่หนีตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ล้มตัวตบทิ้งช่วยเอาไว้ได้อีกครั้ง

    ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซี พยายามเจาะหาประตูชัยมาส่งท้ายจาก รีซ เจมส์ สอดขึ้นมาทางขวาซัดตามน้ำไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล โดยตลอดทั้งเกม เจ้าถิ่น มีโอกาสลุ้นทั้งเกม 20 ครั้งแต่มีปัญหาเรื่องความมั่นใจ

    หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เชลซี 1 เลสเตอร์ 1

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง

    เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.72), มาร์กอส อลอนโซ่ - ฮาคิม ซิเย็ค, คริสเตียน พูลิซิช (เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า น.72) - โรเมลู ลูกากู (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.78)

ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล     

    เลสเตอร์ (3-1-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์ - น็อมปาลิส เมนดี้ - ติโมธี คาสตาญ, เจมส์ แมดดิสัน, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, ลุค โธมัส - เจมี่ วาร์ดี้ (อโยเซ่ เปเรซ น.78), เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ น.63)
 
ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์