(https://static.siamsport.co.th/column/2022/04/28/column202204281243662.jpg)
ปารีสเรียกหาเรา.. จะพูดอย่างนั้นก็ได้
เกมในรอบรองชนะเลิศกับบียาร์เรอัลเพิ่งจะผ่านไปได้เพียงครึ่งทาง โอกาสไปไม่ถึงปารีสยังมีอยู่ แต่ลิเวอร์พูลกำลังเดินอย่างมั่นคงจริงๆ บนเส้นทางสู่ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์
ในเกมที่ต้องชนะ.. พวกเขาทำได้
ศึกใหญ่กับบียาร์เรอัลที่แอนฟิลด์เมื่อคืนวันพุธไม่ใช่เดิมพันชี้ชะตาเข้ารอบ/ตกรอบหรอก เพราะมันยังเป็นแค่เกมแรก แต่เมื่อคำนึงถึงภารกิจชุกชุมที่รออยู่แล้ว มันคือเกมที่ต้องชนะ เพื่อให้งานอื่นที่ต้องเผชิญไม่ตึงมือจนเกินไป
เล่นในบ้านเจอกับทีมที่น็อกทั้งยูเวนตุสและบาเยิร์น มิวนิค ทุกคนในทีมรู้ดีว่าประมาทบียาร์เรอัลไม่ได้เด็ดขาดแม้ผู้มาเยือนจากสเปนจะขาดตัวหลักอย่าง เคราร์ด โมเรโน่ กับ เยเรมี่ ปิโน่ ไปก็ตาม
มาถึงรอบตัดเชือกเวทีนี้ ไม่มีใครกระจอกอยู่แล้ว
และสิ่งที่นักเตะลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นตลอด 90 นาทีของเกมก็คือพวกเขาไม่ประมาทเลยแม้แต่วินาทีเดียว สมาธิกับเกมสูง ศักยภาพในการเล่นเข้มข้น
(http://static.siamsport.co.th/files/images/GettyImages-1394060471.jpg)
เกมโต้กลับที่เล่นงาน บาเยิร์น มิวนิค จนปั่นป่วนในรอบก่อนหน้านี้ของบียาร์เรอัลแทบไม่มีให้เห็น มันหายไปกับความแน่นอนในทุกแดนของลิเวอร์พูลตั้งแต่ หลัง-กลาง-หน้า
ผลการแข่งขันไม่ได้สวยหรูถล่มทลายชนะ 4 ลูก 5 ลูก แต่สกอร์ 2-0 ก็น่าพอใจไม่น้อยถ้ามองถึงความได้เปรียบที่อยู่ในมือก่อนเดินทางไปเยือนถิ่นเอสตาดิโอ เด ลา เซรามิก้า อีกทั้งต้องชมวินัยในการเล่นเกมรับของลูกทีม อูไน เอเมรี่ ด้วย
ผลการแข่งขัน 2-0 ไม่ได้น่าผิดหวังอะไร เราต้องไม่ลืมว่าเกมในครึ่งแรกคือความอึดอัดขั้นสุด ลิเวอร์พูลครองบอลและครองเกมได้ตลอดแต่หาจังหวะทำประตูโจ่งแจ้งไม่ได้เลย
เพราะถ้าไม่รีบร้อนเกินไป นักเตะหงส์แดงก็เร่งจังหวะเกินไป
มันคือสิ่งที่คาดเดาได้ ลิเวอร์พูลเปิดฉากบุกด้วยสไตล์เพรสซิ่งหนักๆ เพื่อกดดันผู้มาเยือนให้ลนลาน ฉกฉวยแย่งบอลมาไว้ในความครอบครองให้ต่อเนื่อง เดินหน้าลุยเพื่อทำประตูแรกให้ได้เร็วที่สุด
ยิ่งประตูแรกมาเร็วเท่าไหร่ งานก็เพลามือลงเท่านั้น แฟนบอลเองก็เข้าใจเรื่องนี้ดี เสียงเชียร์ในแอนฟิลด์จึงกระหึ่มบีบคั้นในทุกๆ จังหวะ กระทั่งลูกทุ่มเดอะค็อปยังเป่าปากเร่งให้นักเตะเรือดำน้ำสีเหลืองรีบทุ่มเร็วๆ
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1394101706-594x594.jpg)
เสียงเชียร์ในแอนฟิลด์ยังคงมีบทบาทเหมือนเคย อย่างที่ เอเตียนน์ กาปู บอกเอาไว้ก่อนเกมนั่นแหละ แอนฟิลด์มันนรกสำหรับทีมเยือนชัดๆ
กลยุทธของ อูไน เอเมรี่ ไม่ซับซ้อนเลย รับต่ำและยืนให้แน่น อย่าเปิดช่องให้เจาะ ตัวสอดซ้อนต้องพร้อม มีสติอยู่กับเกมตลอดเวลา อ่านทางบอลล่วงหน้า ไม่เข้าพรวดพรวดจนเสียตำแหน่ง
นักเตะทีมเยือนทำทุกอย่างที่ว่ามาได้ดี อย่าง ฮวน ฟอยธ์ แบ๊กขวาที่ต้องรับมือกับความเร็วของ หลุยส์ ดิอาซ ก็ยืนตำแหน่งอย่างไม่ผลีผลาม รอบังทางและสปรินท์แข่งกันในจังหวะกระชากที่ปีกโคลอมเบียมักจะทำให้เห็นอยู่บ่อยๆ
เกมในครึ่งแรกชวนอึดอัดเหมือนเกมลีกนัดล่าสุดที่ชนะเอฟเวอร์ตัน คือแทบจะไร้วี่แววทำประตูจนน่าหวั่นใจ แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็พิสูจน์คำพูดของเขาให้เห็นอีกครั้งว่า ฟุตบอลเป็นเกมของสองครึ่งเวลา
สองครึ่งเวลาสำหรับเกมนี้คือเรื่องของสกอร์ ขณะที่รูปแบบการเล่นไม่หนีจากกันนัก สิ่งที่ปรับเปลี่ยนเห็นจะเพียงระดับไมเนอร์เชนจ์ คือเปลี่ยนเล็กๆ
เปลี่ยนเล็กๆ...เปลี่ยนไม่มาก แต่สำคัญ
นั่นคือการเล่นให้ช้าลงกว่าเดิมอีกนิด เล่นให้เยือกเย็นกว่าเดิม เพราะครึ่งแรกวู่วามเกินไปและผลีผลามเกินไป จังหวะจะโคนจึงล้นไปครึ่งก้าวในบางครั้ง การเทกตัวโหม่งลูกเตะมุมของ อิบราฮิมา โกนาเต้ กับการกระโดดโหม่งของ ซาดิโอ มาเน่ จากบอลที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตักให้คือตัวอย่างชัดเจน
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240283132-594x594.jpg)
ความร้อนใจอยากจะทำประตูให้ได้เพื่อปลดล็อกให้ทีมจึงกลายเป็นความไม่เป็นธรรมชาติ ผิดจังหวะไปแม้จะนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็เพียงพอที่ทำให้ประสิทธิภาพของบอลที่ควรจะเป็นประตูลดลงไป
ดูเหมือนคล็อปป์จะปรับเพียงเท่านั้น เพราะเกมคุมเอาไว้ได้หมดแล้ว จังหวะโต้ของบียาร์เรอัลยังน่าหวาดเสียวน้อยกว่าเกมกับเอฟเวอร์ตันด้วยซ้ำ
คุมเกมต่อไป เพลาคันเร่งลงหน่อย มีสมาธิกับจังหวะสุดท้ายให้มาก เน้นกับโอกาสที่เข้ามาให้มีประสิทธิภาพที่สุด แล้วประตูก็จะตามมาเอง
ตั้งรับได้.. ก็ตั้งรับไป ถ้ารับแล้วถูกกดให้ตอบโต้ไม่ได้อย่างนี้ก็เชิญเลย คุณยิงผมไม่ได้แน่ๆ
ประตูขึ้นนำจากลูกโยนของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อาจจะได้โชคช่วยเพราะแฉลบฝ่าเท้าของ เปร์วิส เอสตูปียาน แบ๊กซ้ายบียาร์เรอัล แต่มันก็มีที่มาจากการต่อบอลทำเกมขึ้นมาด้วยทีมเวิร์กที่ดี
เช่นเดียวกับประตูที่สองในอีก 2 นาทีให้หลัง จังหวะวิ่งสอดเข้าเขตโทษของ มาเน่ และการปล่อยบอลของ ซาลาห์ นั้นเหมาะเจาะ ทั้งยังจบอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดด้วยการเลือกวิธียิงของดาวเตะเซเนกัล
ในเสี้ยววินาทีที่ต้องตัดสินใจนั้น หากเลือกแตะบอลหนี เคโรนิโม่ รูยี่ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัลตามจังหวะปกติอาจไม่ทัน บอลนี้ก้ำกึ่งเกินไป มาเน่เลือกเหยียดเท้าจิ้มหัวเกือกสวนตัวรูยี่เข้าไปเลย
นิ่ง เยือกเย็น เลือกการยิงให้ถูกต้อง ไม่ต้องสวยหรือยิงอย่างไร้ที่ติหรอกเพราะตราบใดที่มันเป็นประตูก็ถือว่าเพอร์เฟกต์ทั้งนั้น
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1394074323-594x594.jpg)
คนที่เตะตาที่สุดอีกคนยังคงหนีไม่พ้น ติอาโก้ อัลกันตาร่า ประตูแรกที่ปลดล็อกก็มาจากการดึงจังหวะปล่อยบอลไหลแล้วพลิกตามไปเล่นตรงริมเส้นฝั่งซ้ายของเขา
เอาชนะคู่ต่อสู้ที่หลงเหลี่ยมเข้าสกัด จุดเริ่มต้นของประตู 1-0 มาจากจุดนั้น
เมื่อเขาฟิตสมบูรณ์เต็มที่และปรับตัวเข้ากับทีมได้เต็มตัว เราก็ได้เห็นคลาสอันน่าเพลิดเพลินของเขาอย่างนี้ อยากจะกอดทีมงานสเก๊าต์ผู้เล่นของสโมสรแล้วหอมสักฟอด จากนั้นก็หอมอีกฟอดสำหรับ อิบราฮิมา โกนาเต้ แล้วก็หอมปิดท้ายอีกฟอด
จากผลงานของ ดิอาซ ที่เล่นได้ถึงใจราวกับอยู่ร่วมทีมมานาน
ลิเวอร์พูลจะเดินทางไปเยือนบียาร์เรอัลด้วยสมาธิที่ยังคงเต็มร้อย และไม่ประมาท
มันจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน ทีมชุดนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนเข้าใจสถานการณ์ทะลุปรุโปร่ง ตราบใดที่เกมยังไม่จบทั้งคุณและผมย่อมยังมีโอกาส เกมยุโรปมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอ เราเห็นกันมานักต่อนักแล้ว
แต่จะมีใครรับมือกับโอกาสเกิดปาฏิหาริย์ของคู่ต่อสู้ได้ดีไปกว่าทีมที่สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาเองครั้งแล้วครั้งเล่าล่ะครับ..
ด้วยความเคารพในทีมบียาร์เรอัล เราจะไม่ประมาทคุณและจะยิ่งเล่นอย่างมีสมาธิเกินร้อยต่อหน้าแฟนบอลของพวกคุณ
มันคงจะเป็นเกมที่หนัก แต่เราจะเตรียมตัวรับมันด้วยความมั่นใจ เราจะเล่นในแบบที่เราเป็น
เราจะเน้นเต็มที่อีก 90 นาทีที่สเปน แล้วจากนั้นถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่เราหวัง เราจะไปปารีสด้วยกัน ก็ปารีสเรียกหาเราแล้วนี่